สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นในโลกของการเทรด การเลือกกลยุทธ์ที่เข้าใจง่ายและเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้เทรดเดอร์เรียนรู้การวิเคราะห์และฝึกการเทรดอย่างมีหลักการ นี่คือกลยุทธ์การเทรดที่มือใหม่สามารถนำไปใช้ได้:
1. กลยุทธ์การเทรดตามแนวโน้ม (Trend Following)
การเทรดตามแนวโน้มเป็นกลยุทธ์ที่ง่ายและเหมาะกับผู้เริ่มต้น โดยการสังเกตและติดตามทิศทางของแนวโน้มราคาของสินทรัพย์ หากราคามีแนวโน้มขึ้น (Uptrend) จะเน้นการซื้อ และหากราคามีแนวโน้มลง (Downtrend) จะเน้นการขาย
วิธีใช้:
- ใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) เช่น MA 50 และ MA 200 เพื่อดูแนวโน้มหลัก
- หากเส้น MA 50 อยู่เหนือ MA 200 หมายถึงแนวโน้มขาขึ้น และสามารถหาจังหวะซื้อได้
- หากเส้น MA 50 อยู่ต่ำกว่า MA 200 หมายถึงแนวโน้มขาลง และสามารถหาจังหวะขายได้
2. กลยุทธ์การเทรดแบบกรอบราคา (Range Trading)
กลยุทธ์นี้เหมาะกับตลาดที่ไม่มีแนวโน้มชัดเจน หรือในช่วงที่ตลาดเป็น Sideway โดยราคามักเคลื่อนไหวภายในกรอบที่มีแนวรับ (Support) และแนวต้าน (Resistance) ชัดเจน
วิธีใช้:
- ระบุกรอบแนวรับและแนวต้าน โดยแนวรับคือจุดที่ราคามักหยุดหรือดีดตัวขึ้น แนวต้านคือจุดที่ราคามักหยุดหรือลง
- ซื้อเมื่อราคาลงมาที่แนวรับ และขายเมื่อราคาขึ้นไปที่แนวต้าน
- ใช้สัญญาณยืนยันจาก Indicator อย่างเช่น RSI (Relative Strength Index) หรือ Stochastic เพื่อยืนยันการกลับตัวของราคา
3. กลยุทธ์การเทรดแบบ Breakout
กลยุทธ์นี้มุ่งเน้นการเทรดเมื่อราคาทะลุกรอบแนวรับหรือแนวต้านออกไป ซึ่งมักเป็นสัญญาณของการเริ่มแนวโน้มใหม่หรือการเคลื่อนไหวของราคาที่แรงขึ้น
วิธีใช้:
- ระบุแนวรับและแนวต้านของราคาที่ชัดเจน
- ซื้อเมื่อราคาทะลุผ่านแนวต้าน หรือขายเมื่อราคาทะลุผ่านแนวรับ
- ใช้ Volume Indicator เพื่อยืนยันการ Breakout ที่แข็งแรง โดยดูว่าปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นในทิศทางที่ราคาทะลุออกไป
4. กลยุทธ์การเทรดด้วยเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average Crossover)
เป็นกลยุทธ์ที่นิยมสำหรับมือใหม่เพราะเข้าใจง่าย โดยเน้นการใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สองเส้นในการหาจุดตัดสินใจ
วิธีใช้:
- เลือกเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นและระยะยาว เช่น MA 50 และ MA 200
- ซื้อเมื่อเส้น MA ระยะสั้นตัดขึ้นไปเหนือเส้น MA ระยะยาว
- ขายเมื่อเส้น MA ระยะสั้นตัดลงมาต่ำกว่าเส้น MA ระยะยาว
5. กลยุทธ์การเทรดด้วยดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI Trading Strategy)
RSI เป็น Indicator ที่ใช้ในการวัดระดับการซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือการขายมากเกินไป (Oversold) ของตลาด
วิธีใช้:
- ใช้ RSI ที่ค่า 70/30 (ค่า Overbought คือ 70 และ Oversold คือ 30)
- หาก RSI อยู่เหนือ 70 อาจเป็นสัญญาณให้ขายเนื่องจากราคาอาจเริ่มกลับตัวลง
- หาก RSI ต่ำกว่า 30 อาจเป็นสัญญาณให้ซื้อเนื่องจากราคาอาจเริ่มกลับตัวขึ้น
เคล็ดลับสำหรับการเริ่มต้น
- ใช้บัญชีทดลอง เพื่อฝึกกลยุทธ์การเทรดต่าง ๆ ก่อนที่จะลงทุนเงินจริง
- ตั้งค่าการจัดการความเสี่ยง เช่น การกำหนดจุด Stop Loss และ Take Profit เพื่อปกป้องเงินทุน
- ติดตามข่าวสาร และปัจจัยพื้นฐานที่มีผลต่อราคาของสินทรัพย์
การเทรดต้องใช้เวลาในการฝึกฝนและสะสมประสบการณ์ การใช้กลยุทธ์ที่เข้าใจง่ายและมีการจัดการความเสี่ยงที่ดีจะช่วยให้มือใหม่มีโอกาสสำเร็จมากขึ้น