ฟิวเจอร์ส (Futures) และ สปอต (Spot) แตกต่างกันอย่างไร?

การซื้อขายแบบ ฟิวเจอร์ส (Futures) และ สปอต (Spot) นั้นมีความแตกต่างกันอย่างมาก ไม่เพียงแต่ในวิธีการซื้อขายและการส่งมอบสินทรัพย์ แต่ยังมีรายละเอียดเชิงลึกที่สามารถช่วยให้นักลงทุนเข้าใจการใช้งานและวัตถุประสงค์ของแต่ละประเภทการซื้อขายได้มากขึ้น มาดูกันว่ารายละเอียดเพิ่มเติมเหล่านี้มีอะไรบ้าง


1. Spot Market (ตลาดสปอต)

ตลาด Spot เป็นตลาดที่เกิดการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ในราคาปัจจุบันและมีการส่งมอบสินทรัพย์ทันทีหรือในเวลาสั้น ๆ

รายละเอียดเพิ่มเติม:

  • ธรรมชาติของการซื้อขาย: การซื้อขายแบบสปอตจะมีการชำระเงินและส่งมอบสินทรัพย์ในทันที ซึ่งราคาซื้อขายเป็นราคาจริง ณ ขณะนั้นที่ผู้ซื้อและผู้ขายตกลงกันเรียกว่า Spot Price
  • ความเป็นเจ้าของ: ในตลาดสปอต นักลงทุนจะได้เป็นเจ้าของสินทรัพย์โดยตรงและสามารถถือไว้ในกระเป๋าสตางค์ดิจิทัล (wallet) หรือที่เก็บอื่น ๆ ซึ่งถือว่าเป็นการถือสินทรัพย์ดิจิทัลที่แท้จริง ไม่ว่าจะเป็น Bitcoin, Ethereum, ทองคำ หรือหุ้น
  • ลักษณะการลงทุนระยะยาว: ตลาดสปอตเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการถือสินทรัพย์ระยะยาว และเก็งกำไรจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าในอนาคตมากกว่าการเก็งกำไรระยะสั้น
  • ความเสี่ยงที่ต่ำกว่า: เนื่องจากไม่มีเลเวอเรจในตลาดสปอต ความเสี่ยงในการสูญเสียเงินทุนเต็มจำนวนจึงต่ำกว่าการซื้อขายฟิวเจอร์ส หากมูลค่าของสินทรัพย์ลดลง นักลงทุนยังคงถือสินทรัพย์นั้นได้โดยไม่โดนบังคับขาย

ตัวอย่าง:

  • หากซื้อ Bitcoin ในตลาดสปอต ผู้ซื้อจะได้รับ Bitcoin จริงและสามารถถือไว้ในกระเป๋าดิจิทัลของตนเอง และไม่มีข้อจำกัดในเรื่องระยะเวลา ถือไว้ได้ตามต้องการ
  • ในตลาดทองคำ หากซื้อทองคำในตลาดสปอต ผู้ซื้อสามารถขอรับทองคำจริงได้หากต้องการ

2. Futures Market (ตลาดฟิวเจอร์ส)

ตลาดฟิวเจอร์สเป็นตลาดที่ใช้สัญญาซื้อขายสินทรัพย์ในราคาที่กำหนดล่วงหน้า โดยไม่จำเป็นต้องซื้อสินทรัพย์จริง ทำให้ฟิวเจอร์สมีจุดเด่นในด้านการเก็งกำไรจากการขึ้นลงของราคาสินทรัพย์อย่างรวดเร็ว

รายละเอียดเพิ่มเติม:

  • สัญญาซื้อขายล่วงหน้า: การซื้อขายฟิวเจอร์สทำผ่าน สัญญาฟิวเจอร์ส (Futures Contract) ซึ่งเป็นข้อตกลงระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายในการซื้อหรือขายสินทรัพย์ในราคาและเวลาที่กำหนดในอนาคต ไม่ใช่การซื้อสินทรัพย์จริง ๆ แต่เป็นการซื้อขายสิทธิในการทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของราคาในอนาคต
  • การใช้เลเวอเรจ (Leverage): ฟิวเจอร์สเป็นที่นิยมในกลุ่มเทรดเดอร์เนื่องจากสามารถใช้เลเวอเรจเพื่อเพิ่มอัตราการทำกำไร โดยเลเวอเรจคือการยืมเงินเพื่อเพิ่มขนาดการซื้อขาย ทำให้สามารถเพิ่มกำไรได้หลายเท่าจากการใช้เงินลงทุนน้อย แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงมาก หากราคาผิดไปจากที่คาดการณ์ก็อาจสูญเสียเงินทุนทั้งหมด หรือมากกว่าเงินลงทุนได้
  • บังคับปิดสัญญา (Liquidation): ในตลาดฟิวเจอร์ส เมื่อราคาของสินทรัพย์เปลี่ยนไปในทิศทางที่ไม่เป็นผลดีต่อเทรดเดอร์ ระบบอาจบังคับปิดสถานะเพื่อป้องกันการขาดทุนเกินกว่าเงินทุนที่มี
  • การเก็งกำไรระยะสั้น: ฟิวเจอร์สเป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเก็งกำไรจากการเปลี่ยนแปลงราคาของสินทรัพย์ในระยะสั้น ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นหรือลง เทรดเดอร์สามารถทำกำไรได้ทั้งจากการ “Long” (เดิมพันว่าราคาจะขึ้น) หรือ “Short” (เดิมพันว่าราคาจะลง)
  • วันหมดอายุ: สัญญาฟิวเจอร์สมีวันครบกำหนด เช่น สัญญารายเดือนหรือรายไตรมาส เทรดเดอร์จำเป็นต้องปิดสัญญา หรือจะถูกบังคับให้ปิดสัญญาหากถึงวันครบกำหนด

ตัวอย่าง:

  • หากทำการซื้อ Bitcoin Futures และเปิดตำแหน่ง Long เท่ากับว่าเทรดเดอร์เดิมพันว่าราคาจะสูงขึ้น หากราคาขึ้นจริง เทรดเดอร์จะได้กำไร แต่หากราคาตก เทรดเดอร์จะขาดทุนและอาจโดนบังคับปิดสถานะ
  • หากเปิด Short สัญญา Bitcoin Futures ก็จะได้กำไรหากราคาลดลง แต่จะขาดทุนหากราคาสูงขึ้น

สรุปเปรียบเทียบ

ปัจจัย Spot Futures
การส่งมอบ ส่งมอบทันที ซื้อขายสิทธิโดยไม่ต้องรับสินทรัพย์จริง
การถือครอง ได้ถือครองสินทรัพย์จริง ถือครองเพียงสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
เลเวอเรจ ปกติไม่มี มีการใช้เลเวอเรจ
วันหมดอายุ ไม่มี มีวันหมดอายุในสัญญา
เหมาะสำหรับ การลงทุนระยะยาว, การถือครองสินทรัพย์ การเก็งกำไรระยะสั้น
ความเสี่ยง ต่ำกว่า สูงกว่า (เนื่องจากเลเวอเรจ)
กลยุทธ์การทำกำไร จากการเพิ่มมูลค่าของสินทรัพย์ ได้ทั้งจากการขึ้นและลงของราคา

การเลือกใช้ระหว่าง Spot และ Futures

  1. Spot เหมาะกับนักลงทุนระยะยาวที่ต้องการถือครองสินทรัพย์จริงและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการลงทุนที่มีความมั่นคงและลดความผันผวน
  2. Futures เหมาะกับนักลงทุนระยะสั้นที่ต้องการเก็งกำไรจากความผันผวนของราคา โดยสามารถทำกำไรได้ทั้งในทิศทางขาขึ้นและขาลง อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังและเข้าใจความเสี่ยงจากการใช้เลเวอเรจ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save