CFD คืออะไร

CFD (Contract for Difference) หรือสัญญาซื้อขายส่วนต่าง เป็นเครื่องมือทางการเงินชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในหมู่เทรดเดอร์มืออาชีพและนักลงทุนทั่วไป เนื่องจากเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนสามารถทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ต่าง ๆ โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์นั้นจริง ๆ CFD ใช้ในสินทรัพย์หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ น้ำมัน หรือแม้กระทั่งคริปโตเคอร์เรนซี ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยืดหยุ่นและหลากหลายสำหรับนักลงทุน

คุณสมบัติหลักของ CFD

  1. ไม่มีการเป็นเจ้าของสินทรัพย์จริง:
    • ในการซื้อขาย CFD นักลงทุนไม่จำเป็นต้องถือสินทรัพย์จริง ๆ เหมือนกับการซื้อหุ้นหรือทองคำ ทำให้การซื้อขายเป็นไปได้รวดเร็วและสะดวกขึ้น เทรดเดอร์จะได้กำไรจากความแตกต่างของราคาสินทรัพย์ระหว่างการเปิดและปิดสัญญา
    • การไม่ถือสินทรัพย์จริงยังช่วยลดต้นทุนบางส่วน เช่น ค่าธรรมเนียมการจัดการหรือค่าธรรมเนียมการโอนสินทรัพย์
  2. การใช้เลเวอเรจ (Leverage):
    • CFD เปิดโอกาสให้ใช้เลเวอเรจที่ช่วยขยายผลกำไร (และขาดทุน) ของนักลงทุนจากเงินทุนเริ่มต้นที่ต่ำกว่า โดยเลเวอเรจคือการยืมเงินเพิ่มจากโบรกเกอร์ ซึ่งจะขยายขนาดของการลงทุนได้ เช่น หากใช้เลเวอเรจ 1:10 นักลงทุนสามารถซื้อขายสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงกว่าเงินทุนที่มีถึงสิบเท่า
    • อย่างไรก็ตาม เลเวอเรจยังเพิ่มความเสี่ยงที่จะขาดทุน นักลงทุนควรระมัดระวังและจัดการการลงทุนอย่างรอบคอบ
  3. ทำกำไรได้ทั้งในขาขึ้นและขาลง:
    • CFD ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถทำกำไรได้ทั้งเมื่อราคาสินทรัพย์ขึ้น (เปิดสัญญา Long) และเมื่อราคาลง (เปิดสัญญา Short) ทำให้มีโอกาสสร้างกำไรได้ไม่ว่าจะเป็นช่วงตลาดกระทิงหรือตลาดหมี
    • ตัวอย่างเช่น หากคาดว่าราคาทองคำจะลดลง เทรดเดอร์สามารถเปิดสถานะ Short ซึ่งหากราคาลดลงจริง เทรดเดอร์ก็จะได้กำไรจากความต่างของราคา

ข้อดีของ CFD

  • ประหยัดต้นทุน: เนื่องจากไม่ต้องถือสินทรัพย์จริง นักลงทุนจึงไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการจัดการหรือค่าธรรมเนียมการโอน
  • ความหลากหลายในการลงทุน: CFD ครอบคลุมหลายสินทรัพย์ เช่น หุ้น ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์ และสกุลเงินคริปโต เทรดเดอร์จึงสามารถกระจายการลงทุนได้หลากหลายประเภทโดยไม่ต้องเปลี่ยนแพลตฟอร์มหรือบัญชี
  • การเทรดตลอด 24 ชั่วโมง: CFD สามารถซื้อขายได้เกือบตลอดเวลา โดยเฉพาะในตลาดที่เปิด 24 ชั่วโมง เช่น คริปโตเคอร์เรนซีหรือตลาดฟอเร็กซ์ ทำให้นักลงทุนมีความยืดหยุ่นในการเลือกเวลาเทรด

ตัวอย่างการทำงานของ CFD

สมมติว่านักลงทุนเปิดสัญญาซื้อ CFD ของหุ้น A ที่ราคา $100 และใช้เลเวอเรจ 1:10 จากเงินลงทุน $1,000 ทำให้นักลงทุนสามารถซื้อสัญญามูลค่า $10,000 ได้ โดยหากราคาหุ้นขึ้นเป็น $110 นักลงทุนจะได้รับกำไร $1,000 (จากการขึ้นของราคาหุ้น $10 x จำนวนหุ้น) แต่หากราคาหุ้นลดลง นักลงทุนจะขาดทุนจากส่วนต่างนั้นแทน

ข้อควรระวังในการลงทุนด้วย CFD

  • ความเสี่ยงสูงจากเลเวอเรจ: เลเวอเรจสามารถขยายขาดทุนได้เท่ากับหรือมากกว่าเงินทุนเริ่มต้น นักลงทุนอาจขาดทุนเกินกว่าเงินลงทุนหากไม่สามารถบริหารความเสี่ยงได้ดี
  • ค่าธรรมเนียมและสเปรด: บางครั้งการเทรด CFD จะมีค่าธรรมเนียม เช่น ค่าธรรมเนียมเปิด-ปิดตำแหน่งหรือค่าธรรมเนียมการถือครองตำแหน่งข้ามคืน ซึ่งจะส่งผลต่อกำไร-ขาดทุนที่แท้จริง
  • ความผันผวนของตลาด: CFD ทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก เช่น ข่าวเศรษฐกิจ การเมือง หรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันอื่น ๆ นักลงทุนควรติดตามข่าวสารและข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อลดความเสี่ยง

สรุป

การลงทุนใน CFD เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังและยืดหยุ่น ช่วยให้นักลงทุนสามารถทำกำไรได้จากตลาดต่าง ๆ โดยไม่ต้องถือครองสินทรัพย์จริง อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงที่สูงจากเลเวอเรจและการเปลี่ยนแปลงของตลาดก็ทำให้การเทรด CFD ไม่เหมาะสำหรับทุกคน นักลงทุนควรศึกษาและฝึกฝนการบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบเพื่อให้สามารถใช้งาน CFD ได้อย่างปลอดภัย

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save